หน้าแรก NATURE & ANIMALS 10 อันดับ นกบินเร็วที่สุดในโลก

10 อันดับ นกบินเร็วที่สุดในโลก

นกบินเร็วที่สุดในโลก บินได้เร็วถึง 242 ไมล์ต่อชั่วโมง ความจริงมันคือสิ่งมีชีวิตอยู่บนฟ้าแล้วเร็วที่สุดเลยด้วยซ้ำ หากเทียบกับรถแล้ว มันก็เร็วพอๆ กับรถ F1 และนี่คือ 10 อันดับ นกบินเร็วที่สุดในโลก

นกบินเร็วที่สุดในโลก

10. เป็ดแคนแวสแบ็ก (Canvasback)

ความเร็วสูงสุด = 73 ไมล์ต่อชั่วโมง (117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) อย่าให้เป็ดพวกนี้หลอกตาคุณ มันอาศัยอยู่ตามหนองบึงในอเมริกาเหนือ มีความกว้างของปีก 34 นิ้ว

มันสามารถทำความเร็วได้ถึง 73 ไมล์ต่อชั่วโมง (117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) มันเป็นนกอพยพ มันจะเริ่มอพยพเมื่อเริ่มฤดูหนาวโดยจะบินเป็นรูปตัว V เมื่อมันเคลื่อนที่เป็นฝูง

9. นกอัลบราทรอสหัวเทา (Grey Headed Albatross)

ความเร็วสูงสุด = 78.9 ไมล์ต่อชั่วโมง (126.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) นกอัลบราทรอสหัวเทาเป็นนกทะเลที่ใหญ่ที่สุดที่พบในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้

มันมีความกว้างปีกถึง 2.2 เมตรและทำความเร็วได้มากถึง 78.9 ไมล์ต่อชั่วโมง ขนาดตัวของมันสามารถต้านทานแรงลมหรือลมพายุได้สบายๆ

8. เป็ดปากยาวอกแดง (Red Breasted Merganser)

ความเร็วสูงสุด = 81 ไมล์ต่อชั่วโมง (130.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เป็นเป็ดอีกชนิดที่บินเร็วมาก พบได้ในอเมริกาเหนือและยุโรป มีขนาดไม่ใหญ่และเหมือนเป็ดแคนแวสแบ็ก

มันจะอพยพทุกฤดูหนาว ทำความเร็วได้ถึง 81 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยแหล่งผสมพันธุ์แหล่งใหญ่สุดของพวกมันคือบึงในแคนนาดา ตัวเมียสามารถวางไข่ได้มากถึง 10 ฟอง

7. ห่านสเปอร์วิงค์ (Spur Winged Goose)

ความเร็วสูงสุด = 88 ไมล์ต่อชั่วโมง (141.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
ห่านสเปอร์วิงค์เป็นนกน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแอฟริกามันมีความยาวถึง 30-45 นิ้วและหนักได้มากถึง 7 กิโล ปีกกว้างระหว่าง 1.5 – 2 เมตร มันทำความเร็วได้มากถึง 88 ไมล์ต่อชั่วโมง เป็นห่านที่บินเร็วที่สุดในโลก

6. นกโจรสลัด (Frigate Bird)

ความเร็วสูงสุด = 95 ไมล์ต่อชั่วโมง (152.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) นกโจรสลัดเป็นนกทะเลขนาดใหญ่ที่พบได้ในเขตร้อน มันมีปีกกว้างถึง 2.3 เมตร

นกชนิดนี้สามารถทำความเร็วได้มากถึง 95 ไมล์ต่อชั่วโมง และเชื่อหรือไม่ว่านกชนิดนี้สามารถบินได้นานเป็นอาทิตย์โดยไม่ต้องลงพื้นด้วยซ้ำ แต่มันก็เดินได้ไม่ดีเลยบนพื้น

5. เหยี่ยวฮอบบี้ (Eurasian Hobby)

ความเร็วสูงสุด = 100 ไมล์ต่อชั่วโมง (160.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เหยี่วชนิดนี้พบได้ในยุโรป แอฟริกา และเอเซีย จัดเป็นเหยี่ยวขนาดเล็ก มันสามารถบินได้เร็วถึง 100 ไมล์ต่อชั่วโมงและยังเป็นนักล่าทางอากาศที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

4. นกแอ่นใหญ่คอขาว (White-throated Needletail)

ความเร็วสูงสุด = 105 ไมล์ต่อชั่วโมง (168.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) หนึ่งในตระกูลนกนางแอ่น พบได้ตามภูเขาของไซบีเรียและในเอเซีย

สามารถทำความเร็วได้มากถึง 105 ไมล์ต่อชั่วโมง ในช่วงฤดูหนาวมันจะอพยพลงใต้ไปทางเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย

3. เหยี่ยวไจร์ฟาล (Gyrfalcon)

ความเร็วสูงสุด = 130 ไมล์ต่อชั่วโมง (209.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ไจร์ฟาลเป็นเหยี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวถึง 20-24 นิ้วและหนักได้ถึง 1.3 กิโลกรัม

เป็นนักล่าทางอากาศโดยกำเนิด มันทิ้งดิ่งลงมาจับเหยื่อจากความสูง เหมือนเครื่องบินทิ้งระเบิด มันทำความเร็วได้มากถึง 130 ไมล์ต่อชั่วโมง และยังสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว

2. อินทรีทอง (Golden Eagle)

ความเร็วสูงสุด = 200 ไมล์ต่อชั่วโมง (321.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) อินทรีทองเป็นนกนักล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ มีความยาวระหว่าง 26 – 40 นิ้วและหนักได้ถึง 7 กิโลกรัม มีปีกกว้างถึง 2.3 เมตร เมื่อมันทิ้งดิ่งเพื่อจับเหยื่อของมัน มันทำความเร็วได้มากถึง 200 ไมล์ต่อชั่วโมง

นอกจากนี้มันยังเป็นหนึ่งในนกที่บินได้สูงที่สุดในโลก ซึ่งก็คือ 10,000 – 15,000 ฟุต ประกอบกับสายตาอันแหลมคมทำให้มันเห็นเหยื่อมันได้โดยเหยื่อไม่รู้ตัว

1. เหยี่ยวเพเรกริน (Peregrine Falcon)

ความเร็วสูงสุด = 242 ไมล์ต่อชั่วโมง (389.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ด้วยความเร็วที่มากถึง 242 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้เหยี่ยวเพเรกรินเป็นสัตว์ที่มีความเร็วมากสุดบนโลกใบนี้ เป็นเหยี่ยวที่พบได้ทั่วโลกยกเว้นขั้วโลกใต้ เหยี่ยวที่โตเต็มที่มีกล้ามเนื้อปีกที่แข็งแรงที่ช่วยให้บินได้เร็วและยังมีขนที่ลู่ลมอีก

พวกมันจะบินเพื่อหาเหยื่อ ซึ่งหลักๆ คือนกพิราบ เมื่อมันเห็นมันจะทิ้งดิ่งมาใส่เหยื่อของมันก่อนที่จะรู้ตัว มันมีหัวใจและปอดที่มีประสิทธิภาพมาก ซึ่งช่วยในการนำออกซิเจนมาเลี้ยงร่างกายในระหว่างการทำความเร็ว

หลายที่ทั่วโลกได้ฝึกเหยี่ยวเพเรกรินไว้เพื่อกำจัดนกพิราบโดยเฉพาะ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ฝ่ายเยอรมันได้ฝึกนกอินทรีและเหยี่ยวไว้จัดการนกพิราบสื่อสารของฝรั่งเศสที่จะบินไปทางอังกฤษโดยเฉพาะ ซึ่งนับว่าโชคร้ายมากถ้าคุณเป็นนกพิราบธรรมดาที่จะบินไปพักร้อนที่ฝรั่งเศสในช่วงนั้น นอกจากนี้เหยี่ยวชนิดนี้ยังพบได้ในไทยอีกด้วย

บทความก่อนหน้านี้7 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ‘คาปิบารา’ เจ้าสัตว์เพื่อนเยอะ
บทความถัดไป10 สุดยอด ‘สัตว์ตัวเหม็น’ ที่ทำให้นักล่าไม่อยากเข้าใกล้